วันจันทร์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

ประเทศออสเตรเรีย

   

    

 ธงชาติออสเตรเลีย 

    

    

 ตราประเทศออสเตรเลีย 

 ข้อมูลทั่วไปประเทศออสเตรเลีย 

   ออสเตรเลีย (อังกฤษ: Commonwealth of Australia) เป็นประเทศซึ่งประกอบด้วยแผ่นดินหลักของทวีปออสเตรเลีย เกาะแทสเมเนีย และเกาะอื่นๆในมหาสมุทรอินเดีย แปซิฟิก และมหาสมุทรใต้ ประเทศเพื่อนบ้านของออสเตรเลียประกอบด้วย อินโดนีเซียปาปัวนิวกินี และติมอร์ตะวันออกทางเหนือ หมู่เกาะโซโลมอน วานูอาตู และนิวแคลิโดเนียทางตะวันออกเฉียงเหนือ และนิวซีแลนด์ทางตะวันออกเฉียงใต้ชื่อออสเตรเลียมาจากคำในภาษาละตินว่า australisซึ่งหมายถึงทิศใต้ โดยมีตำนานถึง"ดินแดนทางใต้ที่ไม่รู้จัก" (ละติน: terra australis incognita) ชาวยุโรปเริ่มสำรวจค้นพบออสเตรเลียในพุทธศตวรรษที่22และต่อมาจึงกลายเป็นดินแดนอาณานิคมของบริเตนโดยเริ่มต้นเป็นอาณานิคมนักโทษในนิวเซาท์ เวลส์และจึงมีการตั้งอาณานิคมขึ้นอีกห้าแห่งอาณานิคมทั้งหกรวมตัวเป็นสหพันธรัฐในปีพ.ศ. 2444 ออสเตรเลียมีชนพื้นเมืองซึ่งอาศัยตั้งแต่ก่อนชาวยุโรปเข้ามา เรียกว่าชาวอะบอริจิน

 

 

 ประวัติศาสตร์ประเทศออสเตรเลีย

   

     Willem Janszoon 

   ชนพื้นเมืองในออสเตรเลียก่อนการตั้งถิ่นฐานของชาวยุโรป  คือชาวอะบอริจินและชาวเกาะทอร์เรสสเทรตซึ่งชนเหล่านี้มีภาษาแตกต่างกันนับร้อยภาษา ประมาณการว่ามีชาวอะบอริจินมากกว่า 780,000 นอยู่ในออสเตรเลียในปี พ.ศ. 2331การค้นพบออสเตรเลีย ของชาวยุโรปครั้งแรกที่มีการบันทึกไว้ เกิดขึ้นในปีพ.ศ.2149เป็นเรือของชาวดัตช์โดยกัปตัน WillemJanszoonทำแผนที่ชายฝั่งส่วน หนึ่งของออสเตรเลียระหว่างปีพ.ศ. 2149 และ 2313มีเรือของชาวยุโรปประมาณ54ลำจากหลายชาติเดินทางมาที่ออสเตรเลียซึ่งรู้จัก  ในขณะนั้นว่านิวฮอลแลนด์ในปีพ.ศ.2313เจมส์คุกเดินทางมาสำรวจออสเตรเลียและทำแผนที่ชายฝั่งตะวันออกของออสเตรเลีย และได้ประกาศให้เป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร ให้ชื่อว่านิวเซาท์เวลส์ต่อมาสหราชอาณา จักรใช้ออสเตรเลียเป็นอาณา นิคมสำหรับนักโทษ(penalcolony)ฝูงเรือแรก เดินทางมาถึงออสเตรเลียที่อ่าวซิดนีย์ในปีพ.ศ. 2330 ในวันที่ 26 มกราคม (ค.ศ. 1788)ซึ่งต่อมาเป็นวันออสเตรเลีย ผู้ตั้งถิ่นฐานยุคแรกส่วนใหญ่เป็นนักโทษและครอบครัว ของทหารโดยมีผู้อพยพเสรีเริ่มเข้ามาในปีพ.ศ.2336 มีการตั้งถิ่นฐานบน เกาะแทสเมเนียหรือชื่อในขณะนั้นคือฟานไดเมนส์แลนด์ ในปีพ.ศ. 2346 และตั้งเป็นอาณานิคมแยกอีกแห่งหนึ่งในปีพ.ศ. 2368 สหราชอาณาจักรประกาศสิทธิในฝั่งตะวันตกในปี พ.ศ. 2372 และเริ่มมีการตั้งอาณานิคมแยกขึ้นมาอีกหลายแห่ง ได้แก่เซาท์ออสเตรเลีย วิกตอเรีย และควีนส์แลนด์ โดยแยกออกมาจากนิวเซาท์เวลส์ เซาท์ออสเตรเลียไม่เคยเป็นอาณานิคมนักโทษ ในขณะที่วิกตอเรียและเวสเทิร์นออสเตรเลียยอมรับการขนส่งนักโทษภายหลัง เรือนักโทษลำสุดท้ายมาถึงนิวเซาท์เวลส์ในปี พ.ศ. 2391 หลังจากการรณรงค์ยกเลิกโดยกลุ่มผู้ตั้งถิ่นฐานการขนส่งนักโทษยุติอย่างเป็นทางการในปีพ.ศ. 2396 ในนิวเซาท์เวลส์และแทสเมเนีย และปีพ.ศ. 2411 ในเวสเทิร์นออสเตรเลียปีพ.ศ. 2394 เอดเวิร์ด ฮาร์กรีฟส์ ค้นพบสายแร่ทอง ในที่ๆเขาตั้งชื่อว่าโอฟีร์ (Ophir) ในนิวเซาท์เวลส์

 

 

ชาวอะบอริจิน

  ทำให้เกิดยุคตื่นทองนำคนจำนวนมากเดินทางมาออสเตรเลียในปีพ.ศ.2444หกอาณานิ คมในออสเตรเลียรวมตัวกันเป็นสหพันธรัฐในชื่อเครือรัฐ ออสเตรเลีย (Common wealth  of Australia)ประกอบด้วยรัฐนิวเซาท์เวลส์รัฐวิกตอเรียรัฐควีนส์แลนด์รัฐเซาท์ออสเตร เลีย รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียและรัฐแทสเมเนียรวมหกรัฐเข้าอยู่ภายใต้ รัฐธรรมนูญหนึ่งเดียว เฟเดอรัล แคพิทัลเทร์ริทอรีก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ.2454เป็นเมืองหลวงของ สหพันธรัฐ จากส่วนหนึ่งของรัฐนิว เซาท์ เวลส์บริเวณแยส-แคนเบอร์ราและเริ่มดำเนิน งานรัฐสภาในแคน เบอร์รา ในปีพ.ศ. 2470 ในปีพ.ศ. 2454นอร์เทิร์นเทร์ริ ทอรี แยกตัวออกมาจากเซาท์ออสเตรเลียและเข้าเป็นดินแดนในกำกับของสหพันธ์ ออสเตรเลียสมัครใจเข้าร่วมสงครามโลกครั้งที่หนึ่งโดยมีอาสาสมัครเข้าร่วมถึง60,000 คนจากประชากรชายน้อยกว่าสามล้านคนออสเตรเลียประกาศใช้บทกฎหมายเวสต์มินสเตอร์ คริสต์ศักราช 1931(พ.ศ. 2474) ในปีพ.ศ. 2485โดยมีผลบังคับใช้ย้อนไปตั้งแต่ 3กันยายนพ.ศ.2482ซึ่งเป็นการยุติบทบาทนิติบัญญัติของสหราชอาณาจักรในออสเตรเลียเกือบทั้งหมดในสงคราม โลกครั้งที่สองออสเตรเลียประกาศสงครามกับเยอรมนีพร้อมกับสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสหลังจากเยอรมนีบุกโปแลนด์ ออสเตรเลีย ส่งทหารเข้าร่วมสมรภูมิในยุโรปเมดิเตอร์เร เนียนและแอฟริกาเหนือแผ่นดินออสเตรเลีย โดนโจมตีโดยตรงครั้งแรกจากการเข้าตีโฉบฉวยทางอากาศของญี่ปุ่น ที่ดาร์วินออสเตรเลียยุตินโยบายออสเตรเลียขาวโดยดำเนินการขั้นสุดท้ายในปีพ.ศ.2516พระราชบัญญัติออสเตรเลียคริสต์ศักราช1986(พ.ศ.2529)ยกเลิกบทบาทของสหราชอาณาจักรในอำนาจนิติบัญญัติและตุลาการของ ออสเตรเลีย โดยสิ้นเชิงในปีพ.ศ.2542 ออสเตรเลีย  จัดการลงประชามติว่าจะให้ประเทศเป็นสาธารณรัฐมีประธานาธิบดีแต่งตั้งจากรัฐสภาหรือไม่ซึ่งคะแนนเสียงเกือบ55%ลงคะแนนปฏิเสธ

 วัฒนธรรมและประชากรประเทศออสเตรเลีย

   วัฒนธรรมของออสเตรเลียมีลักษณะเป็นวัฒนธรรมตะวันตก  โดยเฉพาะแบบอังกฤษหรือแองโกล-เคลติกแต่ก็ยังมีเอกลักษณ์เฉพาะซึ่งพัฒนามาจากสภาพแวดล้อมและชนพื้นเมืองในระยะหลัง วัฒนธรรมของออสเตรเลียยังได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมอเมริกันประเทศ ออสเตรเลียมีประชากรทั้งหมด 19ล้านคน ส่วนมากอทศัยอยู่ทางชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก ชายฝั่งทะเลด้านตะวันออก ชายฝั่งทะเลด้านตะวันออกเฉียงใต้ และในแทสมาเนียซึ่งประมาณ85%ของประชากรทั้งหมดอาศัยอยู่ใกล้หรืติดชายฝั่งทะเลชาวออสเตรเลีย ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการและดำเนินชีวิตแบบตะวันตกประเทศออสเตรเลีย เปรียบเสมือนบ้านของคนจาดทั่วทุกมุมโลกประชากรประมาณ1ใน5ของประชากรทั้งหมด ที่อาศัยในประเทศออสเตรเลียเป็นชาวต่างชาติ ทั้งจากเอเชียยุโรปอังกฤษและ อเมริกา ปัจจุบันนี้ประเทศออสเตรเลียได้มีการติด ต่อกับประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคอย่างใกล้ชิดประชากรพื้นเมืองของออสเตรเลีย  ได้แก่​ชาวอะบอริจินบนแผ่นดินหลักและชาวเกาะช่องแคบทอร์เรส​ซึ่งมีทั้งหมด 410,003คน ในปีพ.ศ.2544 (ร้อยละ ​2.2 ​ของประชากร)

 

 

 สภาพภูมิอากาศประเทศออสเตรเลีย

  สภาพภูมิอากาศของออสเตรเลียแตกต่างกันในแต่ละรัฐ สภาพอากาศทั่วไปจะเป็นแบบเขตร้อนจนถึงเขตอบอุ่น อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำสุดที่ทัสเมเนียประมาณ 11-12 องศาเซลเซียส และร้อนสุดที่มณฑลตอนเหนือประมาณ 34 องศาเซลเซียส

-ฤดูใบไม้ผลิ กันยายน - พฤศจิกายน อากาศดี ดอกไม้บานสวยงาม

-ฤดูร้อนธันวาคม กุมภาพันธ์ อากาศร้อนและแห้งแล้ง บางแห่งร้อนจัด

-ฤดูใบไม้ร่วงมีนาคม พฤษภาคม อากาศเริ่มเย็นลงตามเมืองชายฝั่งทางตอนใต้และเมืองในเขตป่าฝนจะตกชุก

-ฤดูหนาวมิถุนายน สิงหาคม อากาศเย็นจัด มีหิมะตกบนเขตภูเขาสูงโดยทั่วไป

ตลอดทั้งปีออสเตรเลียจะมีท้องฟ้าใสและแดดแรง โดยเฉพาะตามเมืองชายทะเลและเมืองในแถบทะเลทราย จึงควรป้องกันการถูกแดดเผาโดยการใส่หมวกปีกกว้างและทาครีมกันแดดเสมอ

  ภาษาประเทศออสเตรเลีย 

  ภาษาอังกฤษ

  สกุลเงินประเทศออสเตรเลีย 

  สกุลเงินออสเตรเลียใช้หน่วยเงินเป็นดอลล่าร์ออสเตรเลีย (100เซ็นต์จะเท่ากับ1ดอลล่าร์)

ธนบัตรจะมีตั้งแต่ 100 , 50 , 20 , 10 และ 5 ดอลล่าร์ ส่วนเหรียญจะมีตั้งแต่ 5 , 10 , 20 ,50 เซ็นต์ 1 และ 2 ดอลล่าร์ บริการการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ จะมีให้บริการที่สนามบินระหว่างประเทศแก่ทุกเที่ยวบินที่เดินทางเข้าและออก ประเทศและการแลกเปลี่ยนเงินตราหรือการแลกเช็คเดินทางสามารถทำได้อย่างรวดเร็วได้ที่ธนาคารส่วนใหญ่ในประเทศ บัตรเอทีเอ็มสามารถใช้ได้ในประเทศได้ที่ตู้เอทีเอ็มทุกๆแห่งบัตรเอทีเอ็มของประเทศอื่นๆก็สามารถใช้ได้เช่นกัน การจะเป็นเจ้าของ บัตรจะต้องใช้ระหัสประจำตัว(Personal Identification Number หรือ PIN) ในการเข้าใช้บริการหรือกดเงินสด ซึ่งเจ้าของบัตรสามารถติดต่อขอข้อมูลสำหรับบริการต่างๆและค่าธรรมเนียม ของการใช้บัตรจากธนาคารเจ้าของบัตรได้

 ศุลกากรประเทศออสเตรเลีย

  กฎหมายของออสเตรเลียได้ระบุไว้อย่างเข้มงวดว่าห้ามนำยาเสพย์ติด อาวุธต่างๆ ,ปืน และสิ่งของอื่นๆ ที่มีการระบุว่าห้ามนำเข้าประเทศอย่างเด็ดขาด โดยผู้ที่ฝ่าฝืนจะได้รับการลงโทษอย่างรุนแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาเสพย์ติดซึ่งกฎหมายจะเข้มงวดเป็นพิเศษห้ามนำเข้าขนสัตว์ หนังสัตว์ งาช้างและอวัยวะอื่นของสัตว์และนกประเภทต่างๆ นักท่องเที่ยวห้ามนำอาหารและพืชชนิดต่างๆเข้ามาในออสเตรเลีย หรือถ้ามีจะต้องแจ้งไว้ในบัตรผู้เดินทางขาเข้าประเทศและต้องนำกระเป๋าเดินทางไปแสดงที่ช่องตรวจสีแดงเพื่อที่จะให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบอาหารและพืชที่นำ เข้ามาในประเทศและถ้าตรวจสอบแล้วว่าไม่มีผลเสียใดๆก็จะได้รับคืนสำหรับที่ตรวจสอบแล้วไม่ผ่านจะต้องส่ง กลับประเทศ

  เมืองน่าเที่ยวประเทศออสเตรเลีย

     

    

 Sydney  

   Sydney ซิดนี่ย์  

Sydney New South Wales (NSW) มี Sydney เป็นเมืองหลวง เป็นเมืองที่มีนักท่องเที่ยวมากที่สุดและเป็นเมืองที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดของออสเตรเลีย มีชื่อเสียงในเรื่องชายหาด และความหลากหลายของวัฒนธรรม

  Sydney Opera House เชื่อว่าหลายๆ คนคงเคยเห็นสถาปัตยกรรมรูปทรงคล้าย หอยเชลล์มา บ้างแล้วจากทีวี ภาพยนตร์ซึ่งถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ ของออสเตรเลีย ก็ว่าได้ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยว แวะเวียนมาแชะรูปถ่าย กันตลอด เวลา ไม่ขาดสายเลยและภายใน Sydney Opera House ก็จะประกอบไปด้วยส่วนของศาลาคอนเสิร์ตโรง ละคร ภัตตาคาร และศูนย์วัฒนธรรมแห่งชาติของประเทศ ออสเตรเลียและยังเป็นจุดชมวิวชมวิว ที่สวยงาม ไม่ว่าจะเป็น ตอนกลางวันหรือตอนกลางคืน และถ้าใครมาซิดนีย์แต่ไม่มาที่ Opera House ก็เท่ากับว่ามา ไม่ถึงเพราะที่นี่เป็นหัวใจ หลักเลยก็ว่า ได้Sydney Opera House ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ที่ปลาย แหลมของ ผืนดิน ที่ยื่นออกไปใน ทะเลเล็กน้อยโดยมีน้ำทะเล ล้อมรอบอยู่ถึง 3 ด้าน Opera House มองดูเหมือนเรือ แม้ว่าแรงบันดาลใจของผู้ออกแบบจะมาจาก การปอก เปลือกของผลส้มแมนดารินก็ตาม ต้องถือว่า Sydney Opera House เป็นสัญลักษณ์ของนครซิดนีย์เลยทีเดียว ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างจนถึงปัจจุบันOpera House แห่งนี้ถูกถ่ายรูปมาแล้วนับพันๆล้านครั้งนอกจากความเลอเลิศของรูปแบบของสถาปัตยกรรมที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่จะสร้างความประทับใจให้ทุกคน ที่มาเยือนจนอยากจะมาอีกซ้ำ แล้ว ซ้ำเล่าแล้ว Sydney Opera House มีประวัติคือ ก่อนที่จะมีการก่อสร้าง Sydney Opera House ขึ้น ซิดนีย์ไม่มีสถานที่ที่ เหมาะสมเพียงพอในการเปิดแสดงดนตรีและการแสดงต่างๆ ชาวเมืองใช้ ที่ว่าการของเมืองเป็นที่จัดแสดง แต่เวที การ แสดงก็ยังไม่มีความสมบูรณ์และเหมาะสมอยู่ดี เมื่อ Sir Eugene Goosens ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น หัวหน้าวาทยากร ของวงดุริยางค์ Sydney Symphony Orchestra และดำรงตำแหน่งกรรมการของ NSW Conservatorium of Music ในปี 1947

  

      Melbourne 

   Melbourne เมลเบิร์น 

Victoria (VIC) มี Melbourne เป็นเมืองหลวงเป็นเมืองที่ทั่วโลกรู้จักในเรื่องของวัฒนธรรมและความผสมผสานทางศิลปะบ่อยครั้งที่ถูกเปรียบเทียบกับยุโรปในเรื่องของสถาปัตยกรรมและวิธีการ

     

      Brisbane  

 Brisbane บริสเบน

Queensland (QLD) มี Brisbane เป็นเมืองหลวงเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญทั้งของชาวออสเตรเลียและนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีอากาศที่ดี Great Barrier Reef เป็นแหล่งท่องเที่ยวติดอันดับโลก

   

 
 
 
 
 
 
 
 
 Perth 

   Perth เพิร์ท เพิร์ธ

Western Australia (WA) มี Perth เป็นเมืองหลวง เป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุด แต่มีประชากรเพียงแค่ 8% อุดมสมบูรณ์ไปด้วยแร่ธาตุประมาณ 25% GDP

การเมืองการปกครองออสเตรเลีย-ประเทศออสเตรเลีย
ประเทศออสเตรเลียมีการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
แบบรัฐสภา มีรูปแบบรัฐบาลเป็นสหพันธรัฐ และระบอบราชาธิปไตย ภายใต้รัฐธรรมนูญ ประมุขแห่งรัฐของออสเตรเลีย
คือสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 ซึ่งพระองค์ ปัจจุบันคือสมเด็จพระราชินีนาถอลิซาเบธที่ 2 พระอิสริยยศใน

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น